แอปเปิ้ล (Apple) หรือ "苹果 : píngguǒ : ผิงกั่ว" มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Malus domestica Borkh. จัดอยู่ในวงศ์กุหลาบ (ROSACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อย MALOIDEAE หรือ SPIRAEOIDEAE มีถิ่นกำเนิดในประเทศอิหร่าน ปัจจุบันได้แพร่ขยายไปทั่วทวีปยุโรปและอเมริกา แอปเปิ้ลจึงจัดได้ว่าเป็นผลไม้เมืองหนาวที่นิยมรับประทานกันมากชนิดหนึ่ง สำหรับประเทศไทยก็มีปลูกเหมือนกันแถว ๆ ภาคเหนือ เช่น ดอยอ่างขาง โดยแอปเปิ้ลนั้นมักนิยมใช้รับประทานเป็นผลไม้สด และอาจใช้ปรุงอาหารได้ด้วย เช่น สลัด แยม พาย ซอสแอปเปิ้ลก็มีนะ แต่ถ้าเป็นของไทยเราที่เห็น ๆ กันก็ใช้ใส่น้ำยำ น้ำพริก เป็นต้น
โดยคุณค่าทางโภชนาการของแอปเปิ้ลต่อน้ำหนัก 100 กรัม จะให้พลังงาน 52 kcal และ 220 kJ และยังประกอบไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุสังกะสี ธาตุเหล็ก และยังประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนอีกด้วย เห็นไหมล่ะว่ามีคุณประโยชน์เต็ม ๆ สำหรับพันธุ์แอปเปิ้ลคาดกันว่าทั่วโลกจะมีอยู่ประมาณ 4,000-5,000 ชนิด โดยประโยชน์ของแอปเปิ้ลแต่ละสายพันธุ์จะโดดเด่นแตกต่างกันไปตามสีของแอปเปิ้ล คือ
- แอปเปิ้ลสีแดง จะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเยอะที่สุด จึงเหมาะแก่การช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย เป็นต้น
- แอปเปิ้ลสีชมพู มีสารที่ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและช่วยชะลอความแก่ชราได้ และยังช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ลดไข้ ลดการอักเสบ และยังช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง
- แอปเปิ้ลเขียว มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะมีน้ำตาลน้อยกว่าแอปเปิ้ลสีอื่น
- แอปเปิ้ลเหลือง จะมีสารที่ช่วยในการลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ต้อกระจก และโรคหลอดเลือดหัวใจ
ประโยชน์ของแอปเปิ้ล
- แอปเปิ้ลมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยในการชะลอวัย
- แอปเปิ้ลเหมาะกับการเป็นอาหารที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดความอยากอาหารลง แม้แอปเปิ้ลจะมีน้ำตาลแต่ร่างกายก็สามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ภายใน 10 นาที
- ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด หากรับประทานเป็นประจำวันละ 2-3 ผล
- เป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด เพราะแอปเปิ้ลมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำในปริมาณสูงที่จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย
- เป็นอาหารที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยภาวะเลือดเป็นกรด ไขข้อรูมาติก โรคเกาต์ ดีซ่าน
- แอปเปิ้ลก็มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดฝ้าได้เหมือนกันนะ
- ช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้โดยตรง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
- ช่วยให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก
- ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ช่วยลดไข้และช่วยลดการอักเสบ
- ช่วยละลายเสมหะ
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- แอปเปิ้ลไม่เพียงแต่มีประโยชน์เฉพาะเนื้อเท่านั้น สำหรับเปลือกก็จัดว่ามีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว สำหรับใครที่ไม่ชอบรับประทานเปลือก ขอให้รู้ไว้ว่าเปลือกก็มีความสำคัญไม่แพ้เนื้อเลย เนื่องจากมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายของเรา มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ และที่สำคัญยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย ซึ่งก็ตรงกับงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุเอาไว้ว่าแอปเปิ้ลนั้นเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ “การรับประทานแอปเปิ้ลวันละ 1 ลูกจะป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้โดยตรง” แต่ทั้งนี้เวลารับประทานก็ควรจะล้างน้ำให้สะอาดด้วย (ไม่ต้องปอกเปลือกนะ ขนาดอาดัมกับอีฟยังหม่ำทั้งลูก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น