วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560

ภาษาญี่ปุ่น : いちご


      สตรอเบอร์รี่ หรือ "いちご : Ichingo : อิจิโงะ" เป็นผลไม้ที่จัดอยู่ในสกุลไม้ดอกในวงศ์กุหลาบ มีมากกว่า 20 สปีชีส์และมีลูกผสมอีกมากมาย ผลสดของสตรอเบอร์รี่มีรสชาติหลากหลาย ตั้งแต่รสเปรี้ยวไปจนถึงรสหวานจัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ปลูก โดยสตรอเบอร์รี่ที่นิยมปลูกในบ้านเราก็คือ สตรอเบอร์รี่สวน
    สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เควอซิทิน (Quercetin) เคมเฟอรอล (Kaempferol) แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนช่วยในการยับยั้งสารก่อมะเร็งต่าง ๆ ได้ และยังมีวิตามินซีในปริมาณสูง โดยสตรอเบอร์รี่สดประมาณ 100 กรัม จะมีวิตามินมากถึง 58 มิลลิกรัม และเมื่อนำไปเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นในเรื่องการช่วยต้านอนุมูลอิสระพบว่า สตรอเบอร์รี่จะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าส้มถึงหนึ่งเท่าครึ่ง / มากกว่าองุ่นแดง 2 เท่า / มากกว่ากีวี 3 เท่า / มากกว่ามะเขือเทศ 7 เท่า / มากกว่ากล้วยหอม 7 เท่า และมากกว่าลูกแพรถึง 15 เท่า
      สตรอเบอร์รี่ยิ่งสดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากเท่านั้น ถ้ารับประทานทันทีได้ก็จะดีมาก (ล้างก่อนนะ) หรือไม่ก็ต้องเก็บไว้ในตู้เย็น และการรับประทานสตรอเบอร์รี่แบบสดๆ จะทำให้ได้รับสารอาหารจากสตรอเบอร์รี่มากที่สุด


ประโยชน์ของสตรอเบอร์รี่

  1. สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการชะลอวัย
  2. ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
  3. เป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ต้องการจะลดน้ำหนักและความอ้วน เพราะมีพลังงานต่ำ
  4. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกาย
  5. ช่วยในการดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี
  6. มีส่วนช่วยบำรุงประสาทและสมอง
  7. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
  8. ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง
  9. ช่วยเพิ่มปริมาณไขมันชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยทำให้หลอดเลือดสะอาด ปราศจากคราบไขมัน
  10. ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งอย่างไนโตรซามีน (Nitrosamines) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้
  11. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  12. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้
  13. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
  14. ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
  15. สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยซูเปอร์ไฟเบอร์เพกทิน ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลได้
  16. มีส่วนช่วยบำรุงโลหิต
  17. ช่วยลดความดันโลหิต
  18. มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  19. ช่วยป้องกันไม่ให้ทารกในครรภ์สมองพิการได้ (กรดโฟลิก)
  20. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ช่วยปรับสมดุลของนัยน์ตาให้เป็นปกติ และป้องกันโรคต้อกระจก โรคตาบอดตอนกลางคืน การรับประทานสตรอเบอร์รี่เป็นประจำจึงช่วยลดความเสื่อมของจอประสาทตาได้ถึง 50%
  21. การดื่มน้ำสตรอเบอร์รี่จะช่วยบำรุงร่างกายหลังฟื้นไข้
  22. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัดและภูมิแพ้
  23. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี
  24. ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
  25. มีสรรพคุณทางยาเป็นยาระบายอ่อน ๆ
  26. ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
  27. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ด้วยการรับประทานผลสดครั้งละ 5 ผล
  28. มีส่วนช่วยรักษาโรคนิ่วในไต
  29. ช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ (ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
  30. ช่วยแก้ปัญหาประจำเดือนมาไม่เป็นปกติด้วยการใช้ใบและราก (โดยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ) ตากแห้ง นำมาชงกับน้ำเดือด แล้วดื่มแทนชา และใช้รากสตรอเบอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเดือด 1 กาขนาดกลาง
  31. ช่วยบรรเทาอาการของโรคตับอักเสบ
  32. ช่วยป้องกันการเกิดโรคข้ออักเสบ
  33. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา
  34. ช่วยป้องกันโรคเกาต์
  35. ช่วยระงับกลิ่นปากได้ดี ทำให้ลมหายใจสดชื่น (ใช้ใบสดนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำมาอมบ้วนปาก)
  36. ช่วยแก้อาการเจ็บคอ รักษาแผลในช่องปาก (ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
  37. ช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง (ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
  38. ใบสดนำมาโขลกแล้วนำไปประคบตามร่างกาย ช่วยลดอาการอักเสบบวมช้ำได้เป็นอย่างดี
  39. ใบสตรอเบอร์รี่นำมาซ้อนกันหลาย ๆ ใบ ใช้ประคบแก้รอยช้ำบวมตามร่างกาย
  40. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ด้วยการนำผลสตรอเบอร์รี่สดมาฝานบาง ๆ วางให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  41. ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยการใช้สตรอเบอร์รี่ประมาณ 3 ผลผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมานวดทาบริเวณใบหน้าแล้วล้างออก ซึ่งจะช่วยทำความสะอาด ปรับสภาพผิว และลดการอุดตันของรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
  42. ช่วยทำให้ฟันขาวสะอาด เงางาม ด้วยการใช้ใบสตรอเบอร์รี่และรากที่ตากแห้งมาใส่โถปั่นจนเป็นผง แล้วนำมาใช้แทนยาสีฟัน
  43. มีการนำไปแปรรูปอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่เชื่อม, น้ำสตรอเบอร์รี่, แยมสตรอเบอร์รี่, ไวน์สตรอเบอร์รี่, สตรอเบอร์รี่อบแห้ง, เค้กสตรอเบอร์รี่, โยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่ เป็นต้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น